B52 พร้อมเทคออฟ! หลังปลดล็อก Cปรับโครงสร้างทุนสำเร็จตุนกระสุนเพียบเดินหน้าบุกธุรกิจค้าปลีกออนไลน์รูปแบบใหม่
B52 พร้อมเทคออฟ! หลังปลดล็อกเครื่องหมาย C วันที่ 17 พ.ค.นี้ ที่ผ่านมาปรับโครงสร้างทุนสำเร็จ ตุนกระสุนเพียบ เดินหน้าบุกธุรกิจค้าปลีกออนไลน์รูปแบบใหม่ มีสมาชิกกว่า 70,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
นางสาวนราวดี วรวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) B52 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ประกาศปลดเครื่องหมาย C จากหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เป็นผลมาจากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างทุนได้สำเร็จ
ซึ่งยังส่งผลให้ ขาดทุนสะสมของบริษัทที่มีกว่า 1,124 ล้านบาทเศษ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เหลือเพียง141 ล้านบาทเศษ โดยคาดว่าบริษัทน่าจะมีโอกาสที่จะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดเกลี้ยงภายในปีนี้ซึ่งจะทำให้มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น
"B52 พร้อมลุยธุรกิจเต็มสปีด เพื่อสร้างผลประกอบการให้กลับมาแข็งแกร่ง และมีอนาคตที่สดใส หลังจากปรับโครงสร้างทุนแล้วทำให้มีแหล่งทุนที่พร้อมจะนำมาลงทุนอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีนี้บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาต่อยอดธุรกิจค้าปลีกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ "ทันใจดี" ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจท้องถิ่นรูปแบบใหม่ โดยปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกร้านค้ามากกว่า 70,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
และอยู่ระหว่างการเจรจาความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรรายใหญ่หลายราย เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อยอดไปในธุรกิจต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ดิสทริบิวชั่น สินค้าและบริการที่หลากหลายครบวงจร รวมถึงธุรกิจการเงินฟินเทค มีเดีย และอื่นๆ โดยมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า "สำหรับแผนการทำธุรกิจในส่วนการบริการด้านต่างๆ เแก่ร้านค้าปลีก ผ่านแพลตฟอร์ม " ทันใจดี " ของบริษัทนั้น มีความคืบหน้าไปมาก
โดยบริษัทจะได้ร่วมกับ strategic partner ในการให้บริการด้านการเงินประเภทต่างๆ ที่น่าจะสามารถเปิดตัวได้เร็วๆนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในต่างจังหวัดได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยในส่วนของเงินทุนนั้น ประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 21 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้ได้มีมติอนุมัติแบบมอบอำนาจทั่วไป ให้กรรมการสามารถออกหุ้นสามัญเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 143,137,732 หุ้น และบุคคลในวงจำกัด 71,568,866 หุ้น ได้ทันทีในกรณีที่จำเป็น โดยไม่ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นอีก ทั้งนี้เพื่อความคล่องตัวในการขยายกิจการ และการร่วมทุนกับstrategic partner ในอนาคตอันใกล้นี้